category: Diet & Exercise
tag: เซอร์ทูอิน  นายแพทย์ โยะชิโนะริ นะงุโม

ช่วงนี้มีกระแสการกินอาหารน้อยๆ หรือ กินเพียงมื้อเดียวมาแรง เป็นเพราะเมื่อไม่นานมานี้ มีนายแพทย์ ชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งออกมาเปิดเผยเคล็ดลับการดูแลตัวเองอย่างไรให้ สุขภาพดี และอ่อนกว่าวัย ซึ่งสิ่งหนี่งที่คุณหมอท่านนี้ปฏิบัติอยู่คือ การกินเพียงวันละหนึ่งมื้อ

                นายแพทย์ โยะชิ โนะริ  นะงุโม ปัจจุบันอายุประมาณ 56 ปี แต่ตรวจสุขภาพของหลอดเลือดเท่ากับคนอายุเพียง 26 ปี แถมรูปร่างหน้าตาก็ยังดูอ่อนกว่าวัย คุณหมอท่านนี้ค้นพบว่าความหิวเป็นกระบวนการทำให้ร่างกายมีการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ด้วยยีนที่ชื่อว่า เซอร์ทูอิน        ( Sirtuin ) และในขณะเดียวกัน ร่างกายก็จะกระตุ้นให้มีการผลิต Growth Hormone ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเยาว์วัยออกมา แต่ในทางกลับกัน ถ้าคุณกินอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญ ขบวนการเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

                ไขความลับ เซอร์ทูอิน ยีนชะลอวัย ต้านอ้วน  

                ความจริงแล้ว ยีนเซอร์ทูอิน มีในร่างกายของเราทุกคน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถกระตุ้นให้ยีนตัวนี้ ทำงานได้หรือเปล่า  ประสิทธิภาพของยีนเซอร์ทูอิน จะช่วยชะลอวัย และ ควบคุมความผิดปกติของเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย  ยับยั้ง  กลไกการเกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยให้เซลล์เสื่อมช้าลง  สรุปคือคุณจะแก่ช้าลงนั่นเอง

 โดยปกติยีนตัวนี้ จะถูกกระตุ้นให้ทำงานเมื่อคุณอดอาหาร   ดังนั้น ถ้ากินครบ 3 มื้อ ยีนเซอร์ทูอินก็ไม่ทำงาน เหมือนเรามีของดีอยู่ในตัว แต่นำมาใช้ไม่ได้นั่นเอง แต่ถ้าคุณลองนำหลักการของคุณหมอท่านนี้ไปลองปฎิบัติดู คือ กินเพียงมื้อเดียว แต่ต้องกินน้อยๆ ด้วยนะคะไม่ใช้กินมื้อเดียวแต่กินจนพุงกาง   และปล่อยให้ร่างกายรู้สึกหิวแบบท้องร้องจ๊อกๆ นอกจากลดน้ำหนักแล้ว ยังช่วยชะลอวัยแบบคุณหมอท่านนี้ได้ อีกด้วยค่ะ

        คำถาม : คุณอาจจะมีคำถามในใจว่า แล้วถ้ากินมื้อเดียวหรืออดอาหาร จะมีผลต่อกระเพาะอาหารหรือเปล่า มาดูคำตอบกันค่ะ

       คำตอบ :  ความจริงแล้ว ขบวนการอดอาหารเกิดขึ้นกับร่างกายของคุณทุกวันอยู่แล้ว โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัว ช่วงเวลาที่คุณนอนหลับ    ประมาณ 8 – 10 ชั่วโมง ที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายอยู่ในภาวะอดอาหาร  ซึ่งร่างกายของเราจะใช้เวลานี้ในการฟื้นฟู และซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ

นอกจากนี้ หลักการในการอดอาหาร ยังนำมาใช้ในการดูแลสุขภาพกันมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอดอาหารเพื่อขจัดสารพิษในร่างกาย หรือ อดอาหารเพื่อรักษาโรค จะเห็นได้ว่า การอดอาหารมีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าเกิดโทษ ถ้าคุณไม่มีแผลในกระเพาะ หรือมีกรดในกระเพาะสูง เนื่องจากความเครียด ดื่มแอลกอฮอล์ หรือ สูบบุหรี่ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะว่าวิธีนี้จะทำให้คุณเป็นโรคกระเพาะได้  แต่การอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ ก็ควรมีหลักการที่ถูกต้อง เช่นกัน  ดังนั้นมาดูหลักการที่ถูกต้องในการอดอาหารกันดีกว่าค่ะ

อดอาหารแบบถูกวิธี “ลดอ้วน ลดวัย “

มีข้อมูลจากหนังสือ Eat Stop Eat กล่าวไวว่า ถ้าเราหยุดกิน ตั้งแต่ 12 - 16  ชั่วโมง จะมีโปรตีนตัวหนึ่งในร่างกายทำหน้าที่เผาผลาญไขมันที่สะสมอยู่ ให้กลายเป็นพลังงาน  และถ้าระยะเวลาอดอาหารนานเกิน12 ชั่วโมงระดับอินซูลินในเลือดจะน้อยลง และร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนกลูคาร์กอนออกมาช่วยเร่งเผาผลาญไขมันให้มากยิ่งขึ้น เช่น ถ้าคุณกินอาหาร มื้อเย็น เวลา 17.00 น. แล้วหยุดกินอาหารทุกชนิดยกเว้นน้ำ และ คุณจะสามารถกินอาหารได้อีกที่เวลา 6.00 -9.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เพียงเท่านี้ร่างกายของคุณก็สามารถนำไขมันที่สะสมมาใช้เป็นพลังงานได้แล้ว  

แต่ถ้าคุณต้องการให้มีการสร้างโกรทฮอร์โมน เพื่อเพิ่มความอ่อนวัย ให้กับร่างกาย  คุณต้องอดอาหารเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ค่ะ เช่น ถ้าคุณกินอาหารเช้าเวลา 8.00 น แล้วหยุดกินอาหาร ยกเว้นน้ำเปล่า คุณจะสามารถกินอาหารได้อีกที่เวลา 8.00 น.ของอีกวันหนึ่ง  วิธีนี้ ไม่เหมาะกับเด็ก และ สุภาพสตรีที่ตั้งครรภ์นะคะ

ระยะเวลาในการอดอาหารก็มีขีดจำกัดเช่นกันค่ะ คือไม่ควรอดอาหารเกิน 70 ชั่วโมง  เพราะจะทำให้ร่างกายเข้าสู่โหมดขาดแคลนอาหาร ทำให้ร่างกาย เก็บพลังงานมากกว่าใช้พลังงานค่ะ

 หลักในการบริโภคอาหารเพื่อลดน้ำหนัก และ เพื่อชะลอวัย มีหลากหลายวิธี คุณหมอท่านนี้ ใช้เวลาในการลดน้ำหนัก ถึง 10 ปี จึงประสบความสำเร็จ และนำมาเผยแพร่ให้กับคนที่สนใจดูแลสุขภาพ  ดังนั้น การดูแลสุขภาพ และควบคุมน้ำหนัก ไม่ได้ทำเพียงแค่ 1 วัน ,1 เดือนหรือ 1ปี  คุณสามารถเลือกวิธีที่คิดว่าเหมาะสมกับตัวคุณ และเริ่มต้นปฎิบัติ ตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวคุณเอง

บทความจากนิตยสารSlimming. คอลัมน์slimming diet โดยคุณรุ่งเรือง คลองบางลอ