ศิลปิน- นักแสดงร่วมให้ความรู้มุมมองใหม่วิธีการดูแลตัวเอง เกี่ยวกับภาวะโรคอ้วนเนื่องในวันWorld Obesity Day 2020
category: News & Event
tag: World Obesity Day : Changing the narrativ ภาวะโรคอ้วน Obesity
เนื่องในวัน“World Obesity Day 2020”หรือ“วันอ้วนโลก”ซึ่งตรงกับวันที่4 มีนาคม2563 ที่ผ่านมา
โดยมีนายแพทย์สมิทธิ์ อารยะสกุล (หมอโอ๊ค),คุณเจมส์–กิจเกษมและคุณเอินกัลยากร อดีตนักร้องเสียงใสให้เกียรติเข้าร่วมในกิจกรรม World Obesity Day : Changing the narrative สนับสนุนการจัดงานโดย บริษัทโนโวนอร์ดิสค์ฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งจัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การให้ความรู้และวิธีการดูแลตัวเองเกี่ยวกับภาวะโรคอ้วนในมุมมองใหม่ๆเพื่อการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูตเดนมาร์กประจำประเทศไทย
นายแพทย์สมิทธ์ อารยะสกุล (หมอโอ๊ค) เปิดเผยว่าภาวะโรคอ้วน (Obesity) ถือเป็นโรคเรื้อรังที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนไปอาหารและเครื่องดื่มมีความหลากหลาย การซื้ออาหารก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งบางคนอาจจะมีการรับประทานอาหารที่มีปริมาณแป้งหรือน้ำตาลสูง หรือรับประทานอาหาร5หมู่ได้ไม่เหมาะสมอาจจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพและหนีไม่พ้นเรื่องภาวะโรคอ้วนอย่างไรก็ตามภาวะโรคอ้วนยังมีสาเหตุการเกิดได้จากปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ฮอร์โมนพันธุกรรมสภาวะแวดล้อม โรคประจำตัว เป็นต้น โดยโรคอ้วนมีความเสี่ยงทำให้เกิดโรคร่วมอื่นๆ ได้หลายโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงโรคหัวใจโรคไขมันในเลือดสูง และมีโอกาสที่จะทำให้อายุสั้นลง
“การรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับภาวะโรคอ้วนอยากรณรงค์ให้ทุกฝ่ายผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสมาชิกในครอบครัวเพื่อนคนใกล้ชิดมองผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือภาวะโรคอ้วนด้วยความเข้าใจอย่ามองว่าเป็นเพราะความไม่มีวินัย หรือการไม่พยายามออกกำลังกาย ซึ่งความจริงแล้วมีหลายคนที่มีความตั้งใจและความพยายามในการลดน้ำหนักที่ดี แต่ไม่สามารถลดน้ำหนักให้ถึงเป้าหมายได้ เพราะภาวะอ้วน เป็นโรคซึ่งควรได้รับคำแนะนำและการรักษาอย่างถูกต้องเราควรมีมุมมองใหม่ในการพูดคุยกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวหรือภาวะโรคอ้วน ให้กำลังใจในการลดน้ำหนัก เพราะว่าความอ้วนเป็นโรคอย่างหนึ่งที่ควรได้รับการรักษาภายใต้การดูแลของแพทย์ เพื่อนำไปสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัย
หมอโอ๊คกล่าวด้วยว่าโดยส่วนตัวเป็นแพทย์ที่ทำงานด้านนี้อยู่แล้วและยังเป็นโค้ชคอยให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพแก่ผู้อื่นด้วยดังนั้นการดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงนั้นเป็นสิ่งสำคัญต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ไม่มากไม่น้อยเกินไปควบคู่กับการออกกำลังกาย สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยมีการพูดคุยและหาแนวทางร่วมกันระหว่างแพทย์และผู้ป่วย เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เห็นผลในระยะยาว
คุณเอิน กัลยกร อดีตนักร้อง-นักแสดงเปิดเผยว่า “เอินก็เป็นหนึ่งในหลายๆคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักมาโดยตลอดตอนที่เป็นนักแสดงเคยผอมแต่ก็ยังมีคนมองว่าอ้วนซึ่งเคยพยายามลดน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัมเป็นการลดโดยที่ไม่ใช้ยาแต่เป็นการลดโดยใช้วิธีควบคุมอาหารแต่หลังจากนั้นน้ำหนักก็ขึ้นมาอีก20 กิโลกรัมและช่วงหนึ่งเรามีภาวะโรคซึมเศร้าและได้เข้ารับรักษาโรคซึมเศร้าไปด้วยทำให้ช่วงนั้นมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาอีก40 กิโลกรัม ซึ่งตอนนั้นเหมือนเราถูกตัดสินจากสังคมถูกมองว่าเราอ้วนถูกมองว่าเรากินไม่หยุดไม่มีความพยายามให้การควบคุมน้ำหนักซึ่งส่วนตัวอยากบอกว่าที่ถูกมองแบบนั้นมันไม่ใช่เลยความจริงเราเป็นคนที่แอคทีฟมากพอโดนสังคมมองว่าเป็นคนไม่พยายามทำให้เกิดความรู้สึกที่บั่นทอนชีวิตมากกว่าคนที่เคยเจอกันบางคนก็มาทักว่าไปทำอะไรมาซึ่งแรกๆยอมรับว่าเป็นเรื่องไม่โอเคเลยที่ถูกมองว่าคนอ้วนเป็นตัวตลก”
จากนั้นเวลาผ่านไปมุมมองการใช้ชีวิตก็เกิดการคิดบวกมากขึ้น “เอิน” คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องหาข้อแก้ตัวเราไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดเพราะความงามมีได้หลายรูปแบบอาจจะไม่ใช่ความงามในมุมมองที่สังคมให้ความนิยมคนในสังคมอาจจะยังไม่เข้าใจถึงความงามในมุมที่แตกต่าง และเราไม่ได้ทำความผิดอะไร เราสามารถยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ซึ่งทุกวันนี้ “เอิน” เข็มแข็งขึ้นและเรียนรู้ที่จะยอมรับตัวเองอยู่กับตัวเองได้ง่ายขึ้น และรู้หรือไม่ว่าคนอ้วนบางคนที่เป็นเพราะกรรมพันธุ์หรือภาวะโรคต่าง ๆ เราไม่ควรไปตราหน้าคนไหนเกี่ยวกับความอ้วน เราควรมองให้ทะลุมองไปที่คุณค่าเนื้อแท้ข้างในของคนนั้นๆเป็นอย่างไรมากกว่า
คุณเจมส์– กิจเกษมเปิดเผยว่า“โดยส่วนตัวผมไม่ได้กลัวเรื่องความอ้วนสิ่งที่กลัวคือโรคแทรกซ้อนที่จะตามมามากกว่าผมเป็นคนที่ควบคุมตัวเองค่อนข้างสูงแต่เมื่ออยากรับประทานอะไรก็จะทานเต็มที่ให้ร่างกายได้รับสารอาหารแต่จะใช้วิธีในการเลือกอาหารโดยจะไม่กินคาร์โบไฮเดรทหรือแป้งมากเกินไปและเพิ่มวินัยในตัวเองด้วยเพราะเมื่อรับประทานไปแล้วต้องมีวิธีในการเอาออกซึ่งการออกกำลังกายให้ร่างกายมีการเผาผลาญเป็นวิธีที่ดีต่อร่างกายและการที่เราได้มาร่วมกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวัน World Obesity Day 2020: Changing the narrative
ทำให้มีความเข้าใจในคนที่มีปัญหาโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินมากขึ้นว่าอ้วนเป็นโรคเรื้อรังอย่างหนึ่ง ที่มีสาเหตุจากหลายปัจจัย ซึ่งผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์และผู้เชี่ยวชาญได้ นอกจากนั้นยังได้รับความรู้มากมาย ทำให้เกิดความคิดในมุมมองใหม่ๆทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดำเนินชีวิตได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ที่มาร่วมงานอีกด้วยโดยส่วนตัวก็อยากให้กำลังใจทุกท่านที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัว ให้ใช้แนวทางการลดน้ำหนักที่เหมาะสม ใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและมีความสุข รวมถึงฝากถึงคนรอบข้างของผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวให้เพิ่มความเข้าใจและไม่ตัดสินผู้ป่วยโรคอ้วนว่าเป็นเพราะขี้เกียจและไม่ออกกำลังกาย เพราะมีอีกตั้งหลายสาเหตุทำให้เกิดภาวะโรคอ้วนหรือน้ำหนักเกินได้ควรให้กำลังใจกันมากกว่า
|