category: Entertainment - Thai Stars

เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่ใช้ชีวิตโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงมาตั้งแต่เด็ก สำหรับหนุ่มลูกครึ่ง “อเล็กซ์ เรนเดลล์” ล่าสุดเขากำลังมีละคร 2 เรื่อง “สุดร้าย สุดรัก” กับ “เลือดรักทระนง” ที่จะออนแอร์ให้ได้ชมกันเร็วๆ นี้

แถมยังมีงานหนังติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ จนเจ้าตัวต้องขอเลือกและตัดสินใจอีกที  ส่วนผลงานอื่นๆ ก็มีให้อัพเดทกันเสมอ ทั้งถ่ายแบบนิตยสาร อีเว้นต์ พรีเซ็นเตอร์โฆษณา แต่ไม่ว่างานจะเยอะแค่ไหน หนุ่มอเล็กซ์ก็ยังมีเวลาส่วนตัวไปทำโปรเจ็กต์อื่นๆ อย่างช่วยเหลือช้าง ทำทัวร์อนุรักษ์ธรรมชาติ หรือออกทริปท่องเที่ยวกับหวานใจ เรียกว่าสามารถบาลานซ์ชีวิตได้อย่างลงตัวจริงๆ

ชื่นชอบงานแสดง เต็มที่ทั้งหนังและละคร

“ตอนนี้กำลังถ่ายละครเรื่อง สุดร้าย สุดรัก เป็นละครโรแมนติก คอเมดี้ ดราม่า เรื่องนี้เล่นกับบัว วันสิริ เป็นเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีพรสวรรค์ทางด้านดนตรี ผมต้องเล่นเป็นคนที่มีทักษะในการเล่นดนตรีแบบขั้นเทพมาก ซึ่งเราเล่นกีตาร์ได้แค่นิดหน่อยแบบเบสิกจับคอร์ดได้แค่นั้น แต่ในเรื่องต้องเล่นเป็นทุกอย่าง แถมยังเล่นเก่งด้วย ถือว่ายากเหมือนกัน แอบเครียดนิดนึง และมีอีกเรื่อง เลือดรักทระนง เป็นละครพีเรียด ฟิตติ้งไปแล้ว ส่วนงานหนังก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ คงต้องดูที่เราชอบและโอเคกับมันจริงๆ แล้วค่อยรับเล่น เพราะอยากให้งานออกมาดีที่สุดครับ”

ในวันที่โตขึ้นของเด็กชายอเล็กซ์

“ตอนเด็กๆ อาจจะดื้อบ้าง ซนบ้างตามประสาเด็กผู้ชาย แต่จากที่ถามคนอื่น เค้าบอกว่าผมไม่ดื้อนะ (ยิ้ม) ไม่เคยงอแง จนทำให้เสียงาน ส่วนหนึ่งเพราะมีแม่มาคอยดูแลด้วย พอโตขึ้น เริ่มจัดการสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น เริ่มใช้ชีวิตอีกแบบ ตอนเด็กๆ เวลาใครให้ทำอะไรที่ไม่ชอบ เราก็อาจจะฝืนๆ ทำไป แต่ตอนนี้ ถ้าเจออะไรที่ไม่ชอบ หรือทำแล้วไม่สบายใจจริงๆ เราก็ไม่ทำ บางมุมเราเป็นคนที่จริงจัง โดยเฉพาะกับงาน แต่ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว การใช้ชีวิตทั่วไป เป็นคนที่ค่อนข้างชิลล์มาก สามารถปล่อยวางกับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามาได้พอสมควร ไม่ค่อยหงุดหงิด หรือโกรธใคร ส่วนใหญ่จะสนุกสนาน เฮฮา ชอบทำให้คนรอบข้างหัวเราะ”

โปรเจ็กต์ดีๆ ที่อยากบอกต่อ

 “ตอนนี้ยังทำโครงการอุปถัมภ์ช้างอยู่ จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ เกิดจากการที่ผมกับเต้ยไปเจอพี่คนนึงที่เค้าดูแลช้าง เราก็อยากจะช่วย จากนั้นเค้าก็โทรฯ กลับมาบอกว่ามีช้างเชือกนึงอยู่ที่ต่างจังหวัด เราเลยไปดูกัน ตั้งแต่นาทีที่เราเดินออกจากตรงนั้น เราก็เริ่มคิดทำโครงการนี้ขึ้นมา และยังคงช่วยช้างไปเรื่อยๆ สนุกที่ได้ทำ ถือเป็นแชริตี้ส่วนตัวของเรา จริงๆ เราไม่ได้อะไรตอบแทน แต่เรารู้สึกดีที่ได้เปิดโอกาสให้คนอื่นได้เข้ามาช่วยเหลือด้วย ต้องขอบคุณคนที่ร่วมบริจาคเงิน ทำให้เราสามารถใช้เงินตรงนี้ให้เกิดประโยชน์ที่ไม่ใช่ประโยชน์ของเราเอง แต่เป็นของทุกคน ถ้าทำคนเดียวคงไม่ประสบความสำเร็จแน่นอน ต่อไปผมอยากทำรถพยาบาลฉุกเฉินสำหรับช้าง มีช้างหลายเชือกที่เสียไป เพราะไม่มีรถที่จะรับไปรักษา เราเลยอยากมีรถบรรทุก ที่จะให้เจ้าของเสียแค่ค่าน้ำมันและค่าคนขับรถ ส่วนค่ารถฟรี การทำอย่างนี้จะช่วยเหลือช้างได้เยอะมากครับ (ยิ้ม)”
 

เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น

“คบกัน 3 ปีกว่าแล้ว ค่อยๆ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ไม่ได้มองว่าต้องแต่งงานตอนไหน ไม่รีบ เราเริ่มจากการเป็นเพื่อนกัน ประทับใจเค้าหลายอย่าง (เต้ย จรินทร์พร) เค้าเป็นคนน่ารัก นิสัยดี เป็นที่ปรึกษาได้ ช่วงไหนที่ว่างตรงกันก็มาเจอกัน ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แต่ช่วงนี้มีหลายอย่างให้โฟกัส ทั้งเรื่องงาน และครอบครัว เราอยากดูแลทุกคนให้สบายก่อนแล้วค่อยมาคิดถึงเรื่องตัวเอง ก็ปล่อยไปตามจังหวะของมัน ผมมองว่าความรักเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยตัวของมันเอง และดำเนินไปได้เรื่อยๆ ทุกวันนี้ที่คบกันก็ไม่ได้ไปคาดหวังอะไรมากมาย หรือคิดว่าต้องเป็นแบบนั้น แบบนี้ ปล่อยให้เป็นเรื่องธรรมชาติ ถ้าใช่ก็ใช่ ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ผมอาจจะมีความคิดเป็นของตัวเองสูง เวลาเราเชื่ออะไรแล้วจะไม่ค่อยมีใครมาเปลี่ยนเราได้ เค้าก็เป็นเหมือนกัน ซึ่งเราก็เข้าใจ เพราะคนสองคนกว่าจะมาจูนกันได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ก็มีทะเลาะกันบ้าง แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร ทุกอย่างสามารถพูดคุยกันได้”