จากแบรนด์ชาไฮเอนด์ No.57 สู่ร้านอาหารไทยอีสานรสแซบ”ตำทองหล่อ” คุณตาล พิมพ์ชนก เผยที่มาความหลงใหลในวัยเด็ก

 

สาวสวยเจ้าของธุรกิจชา ที่หันมาเพิ่มธุรกิจให้ตัวเองด้วยการเปิดร้านส้มตำ ที่สำคัญเธอเป็นเจ้าของร้านสุดสวยลุคไฮโซ ที่ไม่บอกคงไม่มีใครเชื่อว่า นี่แหละมือตำเจ้าของสูตรส้มตำอร่อยแซบของร้านตำทองหล่อ

           หลังเรียนจบด้านแฟชั่นมาร์เกตติ้งที่สหรัฐอเมริกา คุณตาล พิมพ์ชนก พลางกูร สุภัทรพันธุ์ กลับเมืองไทยและทำธุรกิจชาแบรนด์ No.57  ชาไฮเอนด์ที่เน้นส่งออกต่างประเทศในแถบยุโรป และญี่ปุ่นเป็นหลัก ซึ่งช่วงแรกๆ เธอต้องไปใช้ชีวิตที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะความที่โรงงานชาตั้งอยู่ที่นั่น คุณตาลใช้ชีวิตอยู่ที่เชียงใหม่ถึง 2 ปี ดังนั้นบอกเลยว่าความคุ้นเคยของเธอกับจังหวัดนี้ไม่ธรรมดา   

 


คุณตาล พิมพ์ชนก พลางกูร สุภัทรพันธุ์

 

               จนกระทั่งวันหนึ่งคุณตาลมีโอกาสได้กินส้มตำร้านหนึ่งที่เชียงใหม่ ความรู้สึกสมัยเด็กของเธอกลับคืนมาอีกครั้ง ย้อนกลับไปสมัยที่เธอติดสอยห้อยตามพี่เลี้ยงไปที่นั่นที่นี่  ทำให้เธอคิดถึงสิ่งที่เคยทำร่วมกับพี่เลี้ยง  นั่นก็คือ การกินส้มตำหลังบ้าน แม้จะอายุแค่ 7 ขวบ แต่การได้ลิ้มลองส้มตำปลาร้าขนาดแท้ถิ่นอีสาน ก็ทำให้เธอติดใจในความอร่อยนั้นไม่เคยลืม

               “ คือปกติตาลเป็นคนที่ชอบทำกับข้าว ทำอาหารอยู่แล้วนะคะ ช่วงที่แต่งงาน และตั้งท้องทำให้ตาลมีเวลาอยู่บ้านเยอะ ก็เลยมีเวลาทำอาหารเยอะด้วย ตาลเลยมีเวลาคิดค้นสูตร แกะสูตรอาหารต่างๆ โดยเฉพาะอาหารไทย  ถึงตาลจะเรียนต่างประเทศแต่ตาลชอบอาหารไทย อาหารเอเชีย

 


 

             สำหรับอาหารไทยอีสานเนี่ย ต้องบอกก่อนว่าเกิดจากความประทับใจสมัยเด็กที่เคยกินส้มตำแล้วติดใจรสชาตินั้นมาตลอด คือหลังจากโตขึ้นมาก็ได้กินส้มตำอีกนะ แต่ว่ามันไม่ใช่รสแบบที่เราเคยกินสมัยเด็กๆ ตอนเด็กตาลจะอยู่กับพี่เลี้ยง ก็จะตามเขาไปหลังบ้านตลอด ตาลรู้สึกว่าหลังบ้านสนุก มีอะไรแปลกใหม่เยอะ เขาจะตำส้มตำกินกัน ทุกอย่างตอนนั้นแปลกใหม่มาก และมันก็กลายเป็นสิ่งที่ตาลสนใจมาจนทุกวันนี้  ช่วงที่ตาลอยู่เชียงใหม่ ตาลก็ไปเจอร้านส้มตำอยู่ร้านหนึ่ง พอได้กิน มันใช่เลย รสชาติที่ชอบมันกลับมา เรียกว่าโคตรอร่อย (หัวเราะ)”

 


 

             จุดเริ่มต้นร้านตำทองหล่อ  อาจบอกได้ว่ามาจากรสชาติที่คุณตาลได้เคยลิ้มลองเมื่อครั้งยังเป็นเด็กนั่นเอง

             “ร้านส้มตำร้านนี้อยู่ห่างจากบ้านตาลมาก ถึงให้คนไปซื้อ แต่ก็ต้องใช้เวลาชั่วโมงครึ่งกว่าจะมาถึงบ้าน เลยตัดสินใจหัดทำกินเอง ลองแกะสูตรของเขานี่แหละ ตาลชอบแกะสูตรอาหารมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว  จนกระทั่งได้รสชาติใกล้เคียง แต่ไม่เหมือนกันหรอกนะ เป็นรสชาติที่ตาลชอบ จากนั้นตาลก็พัฒนาสูตรมาเรื่อย โดยการตำกินเอง ตำจนลงตัว ประกอบกับกลับมาอยู่กรุงเทพฯ   ก็มีโอกาสได้ตำให้คนอื่นกินด้วย คือคุณป้าของตาลท่านจะชอบรสชาติคล้ายตาล เวลาจะทำกินกันก็จะชวนเพื่อนๆ คุณป้ามากินด้วย จาก 2 คน เป็น 3 คน เป็น 10 คน ก็เลยทำให้ตาลได้พัฒนาฝีมือ พัฒนาสูตรจนมั่นใจว่าอร่อยจริงๆ “

 


 

             ร้านตำทองหล่อคอนเฟิร์มว่าส้มตำทุกถาดอร่อยจริง และอร่อยสม่ำเสมอ เพราะสูตรเป๊ะเวอร์

            “ การทำกินเองก็แบบหนึ่ง ทำขายก็แบบหนึ่ง ตาลคิดว่าการปรุงรสชาติไม่ยากนะ เพราะตาลเป็นคนทำอาหารอยู่แล้ว บวกกับประสบการณ์จากการคิดสูตรชา เลยทำให้มีทักษะด้านการตวงวัด เมนูอาหารภายในร้านทั้งหมดมากจากตาล ร้านนี้ถ้าใครบอกไม่อร่อย ต้องโทษตาล ไม่ใช่แม่ครัวพ่อครัว เพราะสูตรเป๊ะมาก น้ำส้มตำตาลจะทำไว้เองทุกวันทุกสูตร  ถ้าทำตามที่ตาลกำหนดสูตรไม่มีทางที่รสชาติจะเปลี่ยน  

             ตาลมีความเชื่อว่าร้านอาหารทุกร้านอร่อยหมด แต่จะถูกปากใครอย่างไรก็แล้วแต่ คำว่าอร่อยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน จุดเด่นของตำทองหล่อคือความอร่อยที่เสมอต้นเสมอปลาย  ตาลยืนยัน ไม่ใช่วันนี้แม่ครัวทะเลาะกับแฟน แล้วอาหารโคตรเผ็ดเวอร์ บบนี้ไม่มีแน่นอน

 


ตำทองหล่อ

 

            ตาลตั้งใจว่าถ้าทำร้านอาหาร ก็จะยึดหลักที่ว่าทำให้คนที่บ้านกินแบบไหน ก็จะทำให้คนอื่นกินแบบเดียวกันด้วย เพราะตาลทำใจรับไม่ได้กับการที่เรารู้อยู่ว่าของที่เราทำไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด  ไม่ใช่ของที่อร่อยที่สุด  ตาลเป็นคนเหมือนจะเพอร์เฟคชั่นนิสนะ คือต้องที่สุด  ตาลยอมขาดทุนกำไร ตาลคิดถึงระยะยาวมากกว่า อีกอย่างเราต้องให้เกียรติลูกค้าที่มากินอาหารร้านเรา  ในเมื่อลูกค้าให้เกียรติมากินอาหารร้านเราแล้ว เราจะทำแบบไม่ดีให้เขาได้อย่างไร ร้านตาลอาจได้น้อยกว่าร้านอื่น แต่ตาลคิดว่าถ้าเรายึดคุณภาพของเรา ก็หวังว่าเขาจะอยู่กับเราไปนานๆ “ 

           สำหรับการตกแต่งร้านตำทองหล่อนี้  เมื่อเดินเข้ามาที่ร้านจะได้สัมผัสบรรยากาศกลิ่นอายอีสาน ด้วยกำแพงเป็นไม้ไผ่สาน และคุณจะอดอมยิ้มกับสติ๊กเกอร์ท้ายรถสิบล้อ คำคมเก๋ๆ ไม่ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยโคมไฟไม้ไผ่สานเป็นรูปกระติ๊บข้าวขนาดใหญ่ ถือเป็นการตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์นที่ผสมผสานกลิ่นอายไทยอีสานได้อย่างลงตัว  

 


หมูแดดเดียว

 

          “ ต้องขอบคุณพี่ตือ สมบัษร ที่ช่วยครีเอทร้านให้ลงตัวมากขึ้น คนที่มากินอาหารที่ร้านก็จะชอบถ่ายรูปด้วยเพราะสีสันสดใส ตาลไม่ได้อยากได้ร้านหรูๆ  อยากให้คนที่มากินส้มตำ แบบว่าสบายๆ ไม่ต้องแต่งหน้าแต่งตัวเต็มมากิน”

            เมนูตำทองหล่อ เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน นำเส้นมะละกอมาสไลด์บางเป็นเส้นคล้ายเส้นพาสต้า พร้อมด้วยเครื่องเคียงส่งตรงจากทั่วทุกภาคของไทย เช่น แหนมหม้อ, แคบหมู, หมูยอ และแหนมซี่โครงหมู  และมีกุ้งแม่น้ำตัวโตผ่าครึ่งย่างไฟสุกกำลังดี นอกจากความอร่อยที่ลงตัวแล้ว คุณตาลแอบแย้มให้ฟังว่า นี่คือความคิดต่างทางการตลาดของเธอ ส้มตำของทุกร้านหน้าตาเหมือนกัน ดังนั้นต้องสร้างรสชาติและรูปลักษณ์ให้แตกต่างเพื่อสร้างจุดขาย และเหมือนเธอจะทำได้ดีทีเดียว  นอกจากกุ้งตัวใหญ่ในส้มตำแล้ว  ตำทองหล่อกำลังจะมีเมนูจากกุ้งอีกหลายเมนูด้วยกัน อาทิ กุ้งเผา   ข้าวผัดมันกุ้ง ขนมจีนน้ำยากุ้ง โดยทุกเมนูเน้นว่าใช้กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่ไซส์มาตรฐานเป็นวัตถุดิบหลัก

 


ตำกุ้งจ่อม

 

 


 

              เมนูตำกุ้งจ่อม คุณตาลบอกว่าต้องให้เครดิตรายการครัวคุณต๋อย ช่วงที่ทางรายการนำกุ้งจ่อมเจ้าดังมาออกรายการ เธอลองสั่งทางไปรษณีย์มาลองชิม และคิดว่าน่าจะเข้ากับส้มตำได้ดี เมนูกุ้งจ่อมจึงเกิดขึ้น และขณะนี้เรียกได้ว่าความนิยมแซงหน้าตำทองหล่อไปหลายเสต็ปเลยทีเดียว กุ้งจ่อมให้รสเปรี้ยว เมื่อนำมาคลุกเคล้ากับรสเค็มจากน้ำปลา และรสหวานจากน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมจนอดใจไม่ไหว คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงและลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ เมนูส้มตำของร้านตำทองหล่อมีมากกว่า 10 เมนู ซึ่งคุณตาลบอกเชื่อว่าน่าจะตอบโจทย์ลูกค้าได้มากพอสมควร โดยไม่ต้องคิดเมนูมากมายให้แปลกจนไม่สามารถกินได้จริง

 


ต้มแซบกระดูกหมูอ่อน

 

 


ไก่ย่างกะทิ

 

 


 

                นอกจากนี้ยังมี ไก่ย่างกะทิ  ที่นำไก่หมักในน้ำกะทิคั้นสดๆ คลุกเคล้ากับสมุนไพรนานาชนิด หมักจนน้ำกะทิแทรกซึมไปในเนื้อไก่ เมื่อนำมาย่างบนเตาจะได้ไก่ย่างเนื้อนุ่มฉ่ำน้ำกะทิ และกลิ่นหอมสมุนไพร ต้มแซบกระดูกอ่อน กระดูกหมูอ่อนๆ ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี นำไปต้นในน้ำซุปนานหลายชั่วโมงจนเนื้อหมูเปื่อย ส่วนน้ำซุปหอมละมุนกลิ่นเครื่องเทศอย่าง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และข้าวคั่ว  ตบท้ายด้วยของหวานอย่าง ไอศครีมกะทิทรงเครื่อง อัดแน่นด้วย ท็อปปิ้งกว่า 10 อย่างจุใจ อาทิ ข้าวโพด, ข้าวเหนียวมูน, ลอดช่อง, เฉาก๋วย, สลิ่ม, เม็ดบัว, ถั่วลิสงคั่วอย่างดี เป็นต้น

 


ไอศครีมกะทิทรงเครื่อง

 

 


 

           “ตำทองหล่อ” เปิดตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น.ณ ชั้น 2 อาคาร เดอะเทสท์ ซอยทองหล่อ 11 โทร 091-8744999

 

 

 

 

 

 

More
Aladin Sushi & Cafe ชวนชิม ‘ซูชิข้าวดำ’ เมนูใหม่ที่ใครได้ลองต้องติดใจ!
On the Table ครีเอท ‘NEW VIBE’ ชู Food Creation & New Experience ดึง TOH CHAN x SISTERS เอาใจคนรุ่นใหม่ไลฟสไตล์เก๋ ทั้งส...
ป่าน วงวีทรีโอ ผุดธุรกิจเพื่อสุขภาพ “Wenzel Organic Farm Khao Yai” แลนด์มาร์กสุขภาพดี๊ดีแห่งใหม่ของเขาใหญ่
เดอะคริสตัล เอส บี ราชพฤกษ์ ขึ้นอาณาจักรเครื่องเล่น “CRYSTAL PLAYLAND” แลนด์มาร์กแห่งความสนุกสุดมันส์ หนึ่งเดียวย่านราชพ...
“พญ.รมิดา เกษมสมพร” คนไทยคนแรก! สร้างชื่อเสียงระดับโลก สอบอเมริกันบอร์ดปลูกผมได้ อันดับ 1 ของโลก
Others
5 หนุ่ม “DVICIO” แฟนมีทติ้งสุดเอ็กคลูซีฟ..ครั้งแรกในไทย!!
สิงคโปร์ สวรรค์ของคนรักอาหาร
Yves Rocher ช่วยสาวๆ แก้ผิวหมองให้กลับมาขาวใสด้วย White Botanical
แอนตี้เอจจิ้ง... ชะลอความเสื่อม ณ จุดซ่อนเร้น
“พุฒ-จุ๋ย-กฤษณ์” ชวนลูกค้า ‘เอไอเอส’ รับโชค 2 ชั้น
Latest
“มอนเดลีซ” ชวนเหล่าคนรุ่นใหม่ พลัสความสดชื่นรับซัมเมอร์ กับ ฮอลล์ เอ็กซ์เอส 2 รสใหม่ “โคล่า ชิลล์” และ “เลมอน โซดา” ร้อน...
พาส่องบริการเฮลธ์เช็คอัพผู้ป่วยสูงวัย“ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุศิริราช” พร้อมเปิดเฟสแรกรับผู้ป่วยใน – ผู้ป่วยนอก ...
เห็นผลการออกกำลังกายที่เร็วกว่า และดีกว่า ด้วยแผนการออกกำลังกายที่สมดุล
ศูนย์การค้าแพลทินัม ชวนช้อปชิม สุดแซ่บ ในงาน “ Zaap Spicy Fest ” ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 67
ปีทองวงการบันเทิงไทย กับการจับมือกันระหว่างภาครัฐพร้อมแรงสนับสนุนเต็มเปี่ยมสู่การยกระดับเศรษฐกิจด้วยสื่อบันเทิงและศิลปิน...

 

 

Top Hits
Za DEEP HYDRATION ผิวเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมีประกาย สวยตั้งแต่วินาทีนี้
ลดอาการปวดเมื่อยด้วย “ท่านอนที่ถูกวิธี”
Bruce Jenner ตัดสินใจเป็นผู้หญิงในวัย 65 ปี
10 อันดับอาหารคอเลสเตอรอลสูง
เธอคือใคร? Hailey Baldwin สาวที่ Justin คิสในไอจี
“พีพี กฤษฏ์” ขึ้นแท่นพรีเซนเตอร์นมพิสทาชิโอแบรนด์ ซันคิสท์ แบรนด์ระดับโลก พร้อมร่วม ครีเอทเมนูสุดพิเศษด้วยนมพิสทาชิโอที่...
มัดรวมภาพประทับใจจากงาน เนสกาแฟ โกลด์ เครมมา คอลแลปส์ แจ็คสัน หวัง เนรมิต “เดอะ ไฟน์เนส แมนชั่น”