category: Entertainment - Hollywood
tag: รูบี้ โรส  Ruby Rose  ไนกี้  Nike

ไนกี้ผู้นำนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์กีฬาระดับโลกร่วมกับนางแบบชื่อดัง รูบี้ โรส (Ruby Rose) ปล่อยผลงานการออกแบบรองเท้ารุ่นใหม่ในแคปซูลคอลเลกชัน“เดอะฟอร์ซอิสฟีเมล” (The Force is Female capsule) ในตระกูลแอร์ฟอร์ซ

         “สิ่งที่น่ามหัศจรรย์เกี่ยวกับการแสดงคือศาสตร์นี้เป็นสิ่งที่ดูอ่อนและแข็งในขณะเดียวกัน และทุกๆ คนต้องผ่านการทดสอบและพัฒนาตนเองไปอย่างไม่หยุดยั้ง” โรสอธิบาย “การแสดงเป็นเรื่องที่ท้าทาย ใหม่ และน่าตื่นเต้น เป็นเสมือนเพชรที่รอให้เราค้นพบ การทำสิ่งที่แตกต่างอาจจะยากกว่าการแสดงแบบเดิมๆ ที่เคยทำได้ แต่เมื่อเราทำสำเร็จเราจะรู้สึกว่าเราก้าวไปอีกขั้นแล้ว”

          นางแบบสาวกล่าวว่าเธอชอบศิลปะการต่อสู้มากกว่าการเต้น โรสนั้นเคยทำสิ่งต่างๆ มากมายในวงการบันเทิง ทั้งการแสดงสตันท์หรือการร้องเพลงในที่สาธารณะ ซึ่งเธอบอกว่าการร้องเพลงทำให้เธอรู้สึกว่า "ฉันเป็นคนที่ไม่มีอะไรดีเลย” หลังจากนั้น เธอจึงพยายามฝึกฝนอย่างหนักเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของเธอ เธอพยายามควบคุมทั้งความตื่นเต้นและความกังวลที่ต้องฝึกร้องเพลงซ้ำๆ หรือเล่นกีตาร์ จนในที่สุดเธอก็มีความมั่นใจและสามารถแสดงได้อย่างน่าประทับใจ 

            “หากอยากเป็นคนที่เก่งหลายๆ ด้าน คุณต้องศึกษาสิ่งที่คุณไม่ชอบหรือไม่ถนัดและฝึกฝนสิ่งเหล่านั้นจนคล่องแคล่ว” 
โรสเล่า และสิ่งที่เธอเล่าสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาที่เธอนำเสนอไว้ในรองเท้ารุ่นใหม่ของไนกี้  โดยไนกี้ยังใช้สีสันและวัสดุเหล่านี้กับรองเท้ารุ่นอื่นๆ เช่น รุ่นเบลเซอร์ โลว์ รุ่นปี 2017 (Nike Blazer Low) รุ่นคอร์เตซคลาสสิก (Nike Cortez Classic) และรุ่นแอร์แมกซ์ 95 (Nike Air Max 95) อีกด้วย และสำหรับรองเท้าในแคปซูล

           แคปซูลคอลเลกชันเดอะฟอร์ซอิสฟีเมล (The Force is Female) ผลิตจากหนังสีแดงพอร์ทไวน์พาเทนท์ (The Port Wine)  ผสานกับขอบสีฟ้าอมเขียวที่ทำจากยางและส่วนกลางพื้นรองเท้าที่เบาและปรับแต่งแบบสมดุล นอกจากนี้ยังมีสีดำพาเทนท์ (Black Patent)ที่ชุบสารสะท้อนแสงสีเงิน หากมองดูพื้นรองเท้าด้านในของรองเท้ารุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นจะพบว่ารูบี้ โรส นางแบบชื่อดังที่มีส่วนร่วมออกแบบรองเท้ารุ่นนี้ได้สอดแทรกคำคมที่ให้แรงบันดาลใจไว้มากมายเพื่อสะท้อนหลักการที่เธอยึดถือ ด้านในรองเท้าด้านหนึ่งเขียนว่า “เป็นฮีโร่ด้วยตัวคุณเอง (Become Your Own Hero)” ส่วนอีกข้างเขียนว่า “อย่างเต็มพลัง (With Full Force)” เพื่อให้ผู้เป็นเจ้าของรำลึกถึงศักยภาพที่แท้จริงของตนหากเขาใช้พลังสร้างสรรค์จากภายในเพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่